ความหมายของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

      
              Functional Drink หมายถึงเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชนที่จับตองไดและเปนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือเป็นเครื่องดื่มที่มีการบงบอกชัดเจนถึงคุณประโยชนเฉพาะเจาะจงเชน น้ำผลไม พรอมดื่มที่มีสวนผสมของแอล-คารนิทีน ชาเขียวผสมคอลลาเจน นมพรอมดื่มผสม คอลลาเจน เครื่องดื่มธัญพืชที่ชวยใหสุขภาพผิวดีขึ้น เครื่องดื่มที่ชวยลดความอวนที่สกัดจากชาหรือสารอาหารจากธรรมชาติ
              Functional Drink เปนคําศัพทที่มักจะใชเรียกผลิตภัณฑเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม โดยความหมายของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือ Functional Drink คือเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชนที่จับตองไดและเปนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือเปนเครื่องดื่มที่มีการบงบอกชัดเจนถึงประโยชนเฉพาะเจาะจงเชน เครื่องดื่มธัญพืชที่ชวยใหสุขภาพผิวดีขึ้น หรือเครื่องดื่มที่ชวยลดความอวนที่สกัดจากชา หรือสารอาหารจากธรรมชาติ ,ชาเขียวผสมคอลลาเจน ,นมผสมคอลลาเจน,น้ำผลไมผสมแอล-คารเนทีนเปนตน







ประเภทของเครื่องดื่ม




ประเภทของเครื่องดื่มเราสามารถแบ่งเครื่องดื่มออกได้เป็น  2 ประเภทใหญ่ๆดังนี้
    1. เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcohol Beverage) หรือเรียกได้อีกอย่างว่า (Soft Drink)
    2. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (Alcohol Beverage) หรือเรียกได้อีกอย่างว่า  (Hard Drink)

เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non- Alcohol Beverage) (Soft drink)




    1. น้ำเปล่า (Water) คือน้ำที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งอื่นๆ เจอปนเหมาะสำหรับการดื่มในทุกๆมื้ออาหารดื่มได้ทั้งเย็นๆ และตามอุณหภูมิห้อง
    2. น้ำแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Water) เป็นเครื่องดื่มที่ได้จากธรรมชาติมีสารพวกเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยอมรับว่าจะช่วยในการย่อยอาหารและลดกรดในกระเพาะอาหารได้ เหมาะกับการดื่มในทุกๆมื้อของอาหารดื่มได้ทั้งเย็นและตามอุณหภูมิห้อง
    3. น้ำผลไม้สด (Fresh Fruit Juice) เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากได้มาจากการนำผลไม้ที่ต้องการทำมาคั้นเอาแต่น้ำซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ดื่มได้ทั้งเย็นและตามอุณหภูมิห้องและสามารถดื่มได้ทุกมื้ออาหารมีทั้งเป็นกระป๋อง (Canned Fruit Juice) ด้วย
    4. น้ำสมุนไพร (Herbal Juice) นอกจากน้ำผลไม้สดแล้วเรายังสามารถนำสมุนไพรมาทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกด้วยในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากและยังเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์แก่ร่างกายเป็นอย่างมากดื่มได้ทั้งแบบร้อนๆ เย็น ๆ และบางชนิดสามารถดื่มได้ทุกมื้ออาหารมีทั้งเป็นกระป๋องด้วย
    5. น้ำเชื่อม (syrup) และน้ำเชื่อมผลไม้ (Cordial)
        - น้ำเชื่อมหมายถึงน้ำกับน้ำตาลเคี่ยวรวมกันหรือมาละลายกับน้ำเปล่าซึ่งสามารถนำมาปรุงเครื่องดื่มและอาหารได้
       - น้ำเชื่อมผลไม้หมายถึงการเติม สี กลิ่น รสของผลไม้ที่ได้จากการสังเคราะห์ลงไปในน้ำเชื่อม เช่น
น้ำเชื่อมที่มีรสมะนาว  (Lime Cordial) น้ำเชื่อมรสทับทิม (Grenadine Syrub) เป็นต้น
   6. น้ำผลไม้เข้มข้น (Fruit Squash) หมายถึงเครื่องดื่มชนิดที่ทำจากน้ำผลไม้ชนิดต่าง ๆ และมีการเติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเพื่อให้มีความเข้มข้นมากขึ้น นอกจากนี้อาจจะมีการปรุงแต่งสี กลิ่น และรส ลงไปด้วย
    7. น้ำโซดา ( Soda water )  เป็นเครื่องดื่มที่ผสมระหว่างเกลือโซเดียมไบคาร์บอเนต กับ น้ำมีรสซ่า
    8. อาร์ทิฟิเชียล วอเตอร์ (Artificial Water ) หมายถึงเครื่องดื่มที่ได้จากการนำเอาน้ำมาปรุงแต่ง สี กลิ่นและรสชาติลงไปตามต้องการเช่น Coca Cola  Seven up เป็นต้น
    9. น้ำนม (Milk) สามารถแบ่งออกได้เป็นน้ำนมที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อตามวิธีการต่าง ๆ และ น้ำนมสด



เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  ( Alcoholic Beverage )

    1. เมรัย ( fermented liquors )คือ ผลที่ได้จากการหมักส่า *ให้เกิดน้ำเมา มีแรงแอลกอฮอล์มากหรือน้อยตามความต้องการโดยไม่มีการกลั่น แบ่งได้ 4 ชนิด
       - เมรัยจากธัญพืช เป็นเมรัยที่ได้จากการหมักเมล็ดธัญพืช หรือแป้งจากเมล็ด หรือแป้งจากหัวธัญพืชเช่น เบียร์ อุ สาโท ไวน์ข้าว
       - เมรัยจากน้ำหวาน เป็นเมรัยที่ได้จากการหมักน้ำหวานและน้ำตาลจากพืชหรือสัตว์ เช่นน้ำตาลเมา กะแช่(toddy) ไซเดอร์ ( cider ) ไวน์ผลไม้  ไวน์น้ำผึ้ง
       - เมรัยผสม เป็นเมรัยที่ใช้เมรัยชนิดที่  1 และ 2 ผสมกันแล้วแต่งกลิ่น สี รสชาติด้วยตัวยาสมุนไพรหรือผลไม้ เช่น เวอร์มุธ  (vermouth) ไวน์ยา  ( medicated wines ) ไวน์พั้นซ์ (punch wine )
       - เมรัยผสมสุรากลั่น เป็นเมรัยที่ผสมระหว่างเมรัยชนิดที่ 1 กับชนิดที่ 2 แล้วปรับแรงแอลอกฮอล์ด้วยสุรากลั่นเพื่อให้มีแรงแอลกอฮอล์สูงขึ้น แต่ไม่เกิน 23 ดีกรี เช่น ไวน์ดีกรีสูง (  fortified wine ) เหล้าเชอรี่ (sherry ) ปอร์ตไวน์( Port wine )
   2. สุรากลั่น  ( distilled liquors / distilled  spirits ) คือแอลกอฮอล์กินได้ ( ethyl alcohol ) ที่ได้จากการหมักส่าผลไม้ น้ำหวาน พืชและธัญพืชให้เกิดแรงแอลกอฮอล์แล้วนำมากลั่น โดยบางชนิดมีการบ่มให้มีรสชาติและกลิ่นดี  แบ่งได้ 3 ชนิด
 - สุรากลั่นโดยตรง เพื่อให้ได้รสและกลิ่นเฉพาะตัวของวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก อาจมีการปรุงแต่งกลิ่น รส และปรับระดับความแรงแอลกอฮอล์ให้พอเหมาะ เช่นสุราขาว หรือเหล้าโรง  วอดก้า (  vodka ) เตกิล่า ( tequila ) เป็นต้น
- สุรากลั่นปรุงหรือผสมพิเศษ  เป็นสุรากลั่นที่นำมาปรุงแต่งระดับแอลกอฮอล์ กลิ่นสี และรสชาติด้วยสมุนไพรและวัตถุดิบปรุงแต่งอื่น ๆ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ สุราแช่สมุนไพร เช่น สุราจีนชนิดต่าง ๆ       
 -สุราแช่สมุนไพรกลั่นทับ แบ่งได้ออกเป็น 3 ชนิดย่อยคือ
ก. สุรากลั่นแช่สมุนไพรและผลไม้กลั่นทับเป็นสุราที่แช่ผลไม้หรือสมุนไพรจนได้กลิ่นตามที่ต้องการจากนั้นจึงนำไปกลั่นซ้ำเอาแต่กลิ่น มิได้มุ่งเอารสชาติหรือสรรพคุณตัวยา  เช่นเหล้ายิน ( Gin)  สุราผสม หรือสุราผสมพิเศษ สุราปรุงพิเศษ
   ข. สุรากลั่นปรุงรส เป็นสุรากลั่นปรุงรส เป็นสุราที่กลั่นแล้วนำมาปรุงแต่งรสให้หวาน หอม มีสีต่าง เช่นสุราเป๊ปเปอร์มินท์ (Peppermint) สุรากาแฟ (Cream of coffee ) เป็นต้น
   ค. สุรากลั่นปรุงและบ่ม  เป็นสุรากลั่นที่ปรุงแต่งแรงแอลกอฮอล์ กลิ่น สี และรสชาติด้วยหัวเชื้อปรุงแล้วนำมาบ่มในถังไม้โอ๊ก เช่น สก็อตวิสกี้ (Scotch Whisky ) ( Bourbon ) (Brandy)  (Rum)
   3. สุราพิเศษ  หมายถึงสุรากลั่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉ.ที่ 46 (พ.ศ. 2513)ซึ่งทำโดยใช้วัตถุดิบ การกลั่น




เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จากความหมายในทางวิชาการ
     “สุราหมายถึง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ชนิดที่ดื่มได้หรือเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) ผสมอยู่ในปริมาณไม่เกิน 60 % ปริมาณดังกล่าวนี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสากลสำหรับปริมาณที่คนสามารถดื่มได้ (ขณะที่เมืองไทยอนุญาตให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ได้สูงถึง ๘0 %)
สุราแบ่งเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ
   1. สุราหมักหรือเมรัย ได้จากการนำเมล็ดธัญพืช เช่น ข้าวชนิดต่าง ๆ ผลไม้ เช่น องุ่น  น้ำตาลจากพืช เช่น น้ำตาลอ้อย น้ำตาลสด ไปหมักกับยีสต์จนเกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ดีกรี อ่อน ๆ กลายเป็นน้ำเมาที่รสชาติดี ได้แก่ เบียร์ ไวน์ แชมเปญ กระแช่ สาโท น้ำตาลเมา  สาเก  เป็นต้น
   2. สุรากลั่น คือการนำสุราหมักมาผ่านกรรมวิธีการต้มกลั่นอีกครั้ง จนได้แอลกอฮอล์ที่มีดีกรีสูงขึ้



การจัดเครื่องดื่ม





   1.จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ดื่มเช่นจัดนมสดให้เด็กในวัยเรียนที่กำลังเจริญเติบโต จัดน้ำผักผลไมให้ผู้สูงอายุที่ระบบขับถ่ายไม่ปกติ จัดน้ำขิงให้กับบุคคลที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
   2.
จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น อากาศเย็นควรจัดเครื่องดื่มอุ่นๆอากาศร้อนควรจัดเครื่องดื่มเย็นใส่น้ำแข็งเพื่อรักษาสมดุลอุณหภูมิภายในร่างกาย
   3.
จัดเครื่องดื่มให้เหมาะสมกับโอกาสที่จะบริการเช่นการบริการเครื่องดื่มสำหรับผู้มาเยี่ยมที่บ้านควรเป็นแบบง่ายๆถูกใจผู้มาเยือนสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ต้องเตรียมปริมาณให้เพียงพอ

   4.จัดเครื่องดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเช่นเครื่องดื่มร้อนให้ใช้ถ้วยกระเบื้องหรือแก้วทนความร้อนที่มีหูจับและมีจานรองไม่ควรเทเครื่องดื่มร้อนๆลงในแก้วพลาสติกละลายเสียรูปทรงหรือมีสารปนเปื้อนจากพลาสติกลงในเครื่องดื่มเครื่องดื่มเย็นให้ใส่แก้วใสทรงสูงอาจมีก้านหรือไม่มีก็ได้สำหรับเครื่องดื่มที่บริการในงานเลี้ยงให้เทใส่อ่างแก้วขนาดใหญ่มีแก้ววางอยู่ข้างๆเพื่อบริการแขกที่มาในงาน



การบริการเครื่องดื่ม


    1.บริการเครื่องดื่มในภาชนะที่ล้างสะอาดและเช็ดให้แห้งเรียบร้อยแล้ว
    2.
บริการเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น 3 ส่วนใน 4 ส่วน ของแก้ว
    3.
การบริการเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นควรมีจานรองหรือผ้ารองแก้วเพื่อป้องกันการจับถือถ้วยที่ร้อนโดยตรงเพื่อป้องกันหยดน้ำของน้ำแข็งซึ่งอาจทำให้โต๊ะมีรอยเปื้อนและลื่นจนแก้วตกแตก
    4.
บริการเครื่องดื่มโดยคำนึงถึงอุณหภูมิและรสชาติเครื่องดื่มเช่นเครื่องดื่มร้อนต้องบริการขณะยังร้อนเครื่องดื่มเย็นต้องใส่น้ำแข็งพอดีและบริการทันทีที่ใส่น้ำแข็งเพื่อไม่ให้น้ำแข็งละลายจะเสียรสชาติ
    5.
บริการเครื่องดื่มและเก็บภาชนะทางขาวมือของผู้รับบริการโดยใช้มือด้านใดด้านหนึ่งหยิบจานรองในกรณีเป็นเครื่องดื่มร้อนและใช้มืออีกข้างหยิบก้านแก้วขณะบริการและเก็บแก้ว
   6.
ผู้บริการต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ตัดเล็บสั้น ล้างมือให้สะอาด
   7.
บริการเครื่องดื่มให้เพียงพอต่อผู้รับบริการ





ยกตัวอย่างเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ




น้ำมะนาว




ส่วนผสม
    - น้ำมะนาว 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว หรือ 1 ผล )
    - น้ำเชื่อม 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว )
    - น้ำเปล่าต้มสุก 180 กรัม ( 12 ช้อนคาว )
    - เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม ( 2/5 ช้อน )

วิธีทำ
    นำมะนาวมาล้างเปลือกแล้วผ่าออก เอาเมล็ดมะนาวออกให้หมดคั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำ น้ำเชื่อม เกลือ คนให้เกลือละลายชิมรสตามชอบ หรืออาจเอาเปลือกของผลสดประมาณครึ่งผลหรือทุบเล็กน้อยพอให้น้ำมันออกชงน้ำร้อนดื่มเวลามีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
    คุณค่าทางอาหาร : มีวิตามินซีมากช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
    คุณค่าทางยา : ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอ เจ็บคอ คลื่นใส้อาเจียนและช่วยขับลมในกระเพาะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อและอ่อนเพลีย

น้ำเชอรี่




ส่วนผสม
    - เชอร์รี่ 100 กรัม ( 7 ช้อนคาว )
    - น้ำเชื่อม 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว )
    - น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม ( 14 ช้อนคาว )
    - เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม ( 1/5 ช้อนชา )

วิธีทำ
    เลือกเชอร์รี่เด็ดก้านล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำต้มครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียด นำไปกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำเปล่าต้มสุกส่วนที่เหลือใส่วงไปคั้นกับกากเชอร์รี่ให้แห้งมากที่สุด นำน้ำเชอร์รี่ที่คั้นได้ ใส่น้ำเชื่อมเติมเกลือ ชิมรสตามชอบ

ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ
    คุณค่าทางอาหาร  : มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
    คุณค่าทางยา : ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง